ทำไมยาปลูกผมใช้แล้วไม่เห็นผล ใครบ้างไม่ควรใช้ยาปลูกผม
สารบัญของบทความ
ปัจจุบันมีวิธีการแก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง มากมาย หนึ่งในนั้นคือ ยาปลูกผม ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกกว่า เนื่องจากใช้เวลาไม่นานไม่ต้องพักฟื้น แต่ยาปลูกผมที่ขายในท้องตลาดนั้นไม่ใช่ทุกคนที่ใช้แล้วจะเห็นผล ซึ่งสาเหตุมาจากอะไร และใครบ้างที่ไม่ควรจะใช้ยาปลูกผม มาหาคำตอบในบทความนี้เลย
ยาปลูกผม คืออะไร
ยาปลูกผม คือ ยาที่ใช้รักษาปัญหาเส้นผม ไม่ว่าจะเป็นอาการผมร่วง ผมบาง ทำให้ผมที่เปราะบางกลับมาหนาขึ้น โดยส่วนใหญ่ยาปลูกผมไม่สามารถแก้ไขปัญหาผมร่วง ผมบางได้อย่างถาวร เพราะยานี้ไม่มีผลต่อรากผม
ส่วนประกอบในยาปลูกผม
อย่างที่รู้ว่า ยาปลูกผมมีส่วนช่วยให้ผมหนาขึ้น ซึ่งส่วนประกอบในยาปลูกผมที่มีส่วนทำให้ผมดกหนา แต่จะมีอะไรบ้างมาหาคำตอบกันได้ ดังนี้
- Finasteride ฟีนาสเตอร์ไรด์ คือ ยารักษาโรคต่อมลูกหมากโต ที่มีส่วนช่วยรักษาอาการผมร่วง ผมบางในเพศชาย ซึ่งการใช้งานควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์
- Minoxidil ไมน็อกซิดิล คือ ยาที่ใช้ในการรักษาโรคความดันโลหิตสูง เวลาออกฤทธิ์จะขยายหลอดเลือดแดง ทำให้ความดันโลหิตลดลง ผลข้างเคียงยังช่วยให้ผมงอกขึ้นใหม่ได้ จึงถูกนำมาใช้ในทางการแพทย์มากขึ้น
- สารสกัดจาก ดอกคำฝอย ดอกคำฝอยนั้นมีสรรพคุณช่วยลดไขมันในเลือด ลดความดันโลหิต ฯลฯ และยังมีส่วนช่วยลดอาการผมร่วง จึงนำมาใช้เพื่อลดอาการผมร่วงด้วย
- สารสกัดจาก ใบบัวบก สารสกัดนี้คล้ายกับดอกคำฝอยคือมักนำมาใช้เพื่อดูแลสุขภาพ แต่สามารถนำมาใช้ดูแลศีรษะ ก็ยังช่วยกระตุ้นเซลล์ในต่อมรากผมชื่อว่า เดอมอลปาปิลลา ใบบัวบกจึงเป็นอีกสารสกัดที่นิยมนำมาใช้ในยาปลูกผม
- ว่านหางจระเข้ ว่านหางจระเข้ มีส่วนช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น นอกจากนี้ยังมีวิตามิน C E B12 ที่ช่วยบำรุงผมให้ยาวขึ้นได้
- วิตามินเอ เป็นวิตามินที่พบได้มากในผักใบเขียว และผลไม้มีสี
- วิตามิน B5 วิตามิน B5 มีส่วนช่วยลดอาการอ่อนเพลีย อาการเหน็บชา สร้างความแข็งแรงทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกัน และช่วยให้เส้นผมเงางาม แข็งแรง ป้องกันการหลุดร่วงได้
- วิตามิน E วิตามิน E ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ และสร้างความแข็งแรงให้เซลล์รูขุมขนบนหนังศีรษะ จึงทำให้ลดอาการหลุดร่วง และมีผมที่แข็งแรงขึ้น
ยาปลูกผมได้ผลจริงหรือ
หากจะหาคำตอบว่ายาปลูกผมใช้แล้วได้ผลจริงหรือไม่นั้น ต้องดูที่ผลิตภัณฑ์ว่าน่าเชื่อถือหรือไม่ หากตัวสินค้าไม่มีข้อมูลวิจัยชัดเจน อาจไม่สามารถบอกได้ว่าจะเห็นผลชัดเจนหรือไม่ ส่วนยาที่มีงานรับรองโดยแพทย์พบว่าได้ผลดีอย่างมากโดยเฉพาะในเพศชาย
ยาปลูกผม มีกี่ชนิด
ยาปลูกผมที่ใช้ในปัจจุบันมีอยู่หลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดจะมีความแตกต่างกันออกไป ผู้ที่ต้องการรักษาผมร่วง ผมบางจึงควรรู้ชนิดของยาปลูกผม เพื่อหาในแบบที่เหมาะกับตนเอง
ชนิดของยาปลูกผม และการใช้งาน
ในปัจจุบันยาปลูกผมที่ใช้ในไทยและได้รับรองในทางการแพทย์อย่างถูกต้องมีเพียง 2 ชนิดเท่านั้น คือ
- ฟีนาสเตอไรด์
คือ ยาปลูกผมชนิดเม็ด ที่ใช้รับประทานใช้รักษาผมบางจากกรรมพันธุ์และฮอร์โมนเพศชาย เพราะตัวฟีนาสเตอไรด์จะช่วยยับยั้ง ฮอร์โมน DHT ของเพศชายที่เป็นต้นเหตุของการที่เส้นผมมีขนาดเล็กลง - ไมน็อกซิดิล
คือ ยาที่ช่วยรักษาอาการผมร่วง ผมบาง โดยตัวยาจะออกฤทธิ์ขยายหลอดเลือด ลดความดันโลหิตสูง เมื่อใช้จนผ่านไประยะหนึ่งจะพบผลข้างเคียงคือ มีผมงอกใหม่ แต่วิธีการใช้จะเป็นการใช้ทาหรือหยอดที่ศีรษะแทนการกิน
ยาปลูกผมของผู้ชายและผู้หญิง
- ยาปลูกผม ที่เหมาะกับผู้ชาย
ยาปลูกผมที่ใช้ในเพศชายนั้น เป็นการรักษาผมร่วงจากกรรมพันธุ์และจากสาเหตุอื่น ๆ ซึ่งยาปลูกผมที่ใช้ในผู้ชายมีหลายแบบได้แก่- ฟีนาสเตอไรด์
- ดูทาสเทอไรด์
- ไมน็อกซิดิล
- Saw Palmeto
- KETOCONAZOLE SHAMPOO
- ยาปลูกผมที่เหมาะกับผู้หญิง
การรักษาอาการผมร่วงผมบางของผู้หญิงนั้น โดยส่วนใหญ่แพทย์จะไม่แนะนำยาปลูกผมที่มีส่วนผสมของ ฟีนาสเตอไรด์ เพราะยานี้มีส่วนในการยับยั้งฮอร์โมน DHT หากผู้หญิงในวัยเจริญพันธุ์หรือหญิงตั้งครรภ์ใช้อาจส่งผลต่อการพัฒนาตัวอ่อนในท้อง ผู้หญิงที่ใช้ยาฟีนาสเตอไรด์รักษาผมร่วงเห็นผลเพียง 60%
ยาปลูกผมที่นิยมใช้รักษาผมร่วงของผู้หญิงจึงเป็น ไมน็อกซิดิล เพราะเป็นยาตัวเดียวที่ถูกรับรองว่าสามารถแก้ไขปัญหาผมร่วงที่เหมาะกับเพศหญิงมากกว่า
ข้อดีและข้อเสียของยาปลูกผม
แม้ว่ายาปลูกผมจะสามารถรักษาอาการผมร่วงได้ แต่ผู้ที่สนใจใช้ยาปลูกผมควรที่จะศึกษาข้อดีและข้อเสีย เพื่อใช้ในการประกอบการตัดสินใจก่อนใช้
ข้อดีของยาปลูกผม
- ใช้ง่ายและสะดวก เพียงทานตามคำแนะนำข้างผลิตภัณฑ์ โดยการใช้ยาปลูกผมบางยี่ห้อ ไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต
- ไม่เจ็บตัว เพราะยาปลูกผมมีแค่แบบรับประทานกับแบบทาหรือใช้ภายนอก ไม่ต้องพักฟื้นแบบการผ่าตัดปลูกผม
- แก้ปัญหาผมบางได้ตรงจุดที่สุด เพราะใช้ยาเข้าไปบำรุงรากผมโดยตรง
- ประหยัดเวลา เพียงใช้หรือทานตามคำแนะนำไม่ต้องเสียเวลาเข้าคลินิกหรือเสียเวลาพักฟื้นแบบการผ่าตัดปลูกผม
ข้อเสียของยาปลูกผม
- ทำให้ระคายเคืองผิวหนัง ผื่นคัน ผิวลอก หรือถึงขั้นมือเท้าบวม ในผู้ที่มีอาการแพ้จากการใช้ภายนอกได้
- ทำให้วิงเวียน ศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน ซึ่งอาจเป็นอีกหนึ่งอาการแพ้
- หัวใจเต้นเร็ว หายใจไม่สะดวก เพราะตัวยาที่เข้าไปทำงานจะขยายหลอดเลือดรวมไปถึงปรับฮอร์โมน หากร่างกายปรับตัวไม่ได้อาจเกิดอาการดังกล่าวได้
- หย่อนสมรรถภาพทางเพศ เพราะตัวยาเข้าไปลดการทำงานของฮอร์โมนเพศชาย จึงทำให้อารมณ์ทางเพศลดลงตามไปด้วย
ผลข้างเคียงจากการใช้ยาปลูกผม
การใช้ปลูกผมสิ่งหนึ่งที่ควรคำนึงถึงก่อนใช้คือ ผลข้างเคียงจากการใช้งาน ซึ่งผลข้างเคียงของยาปลูกผมแต่ละชนิดมีดังนี้
ผลข้างเคียงจากการใช้ยาปลูกผมฟีนาสเตอไรด์ (Finasteride)
- อาจทำให้หย่อนสมรรถภาพทางเพศ เพราะตัวยาไปยับยั้งฮอร์โมน DHT ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศชาย
- การทำงานค่าของตับผิดปกติ
- อาจทำให้เกิดภาวะซึมเศร้า
- หากผู้ที่เป็นมะเร็งต่อมลูกหมากระยะเริ่มแรกทาน อาจตรวจไม่พบโรคดังกล่าว
ผลข้างเคียงจากการใช้ยาปลูกผมไมนอกซิดิล (Minoxidil)
- การเต้นหัวใจผิดปกติ
- หายลำบาก เจ็บที่ทรวงอก
- คลื่นไส้ อาเจียน
- หน้ามืด ความดันตก
ทำไมใช้ยาปลูกผมแล้วไม่เห็นผล
หลายท่านที่ใช้ยาปลูกผม แต่กลับไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่คาดหวัง ซึ่งอาจมีหลายสาเหตุ ดังนี้
เพราะใช้ยาไม่ตรงกับสาเหตุ
เพราะแต่ละคนอาจมีปัญหาผมร่วง ผมบางไม่เหมือนกัน บางคนอาจผมร่วงจากธาตุเหล็กในร่างกายน้อย และการใช้ยาปลูกผมที่รักษาฮอร์โมนเพียงอย่างเดียวจะไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ
เพราะรากผมไม่แข็งแรง
เพราะการทำงานของยาปลูกผมคือการรักษาที่รากผม หากศีรษะของคุณล้าน หรือผมเหลือน้อยจนไม่เหลือรากผมเพียงพอแล้ว ยาปลูกผมก็จะไม่สามารถรักษาอาการผมร่วง หรือล้านบางได้
คนที่ไม่ควรใช้ยาปลูกผม
ยาปลูกผมไม่ได้เหมาะกับทุกคน เพราะหากใช้ยาปลูกผมไปอาจทำให้เกิดปัญหาตามมาได้ ซึ่งผู้ที่ไม่เหมาะจะใช้กับยาปลูกผม ได้แก่
- ผู้ที่ตั้งครรภ์ กำลังให้นมบุตร หรือผู้ที่ร่วงหลังคลอด
- ผู้เป็นโรคตับและการทำงานของตับผิดปกติ
- ผู้ที่มีประวัติแพ้ยา
- ผู้ที่อายุน้อยกว่า 18 ปี
ยาปลูกผมที่ได้รับการรับรอง
ปัจจุบันในประเทศไทยมียาปลูกผมที่ได้รับการรรับรองอย่างถูกต้องทางการแพทย์อยู่สองชนิด คือ
- ยาไมน็อกซิดิล
- ยาฟีนาสเตอไรด์
ซึ่งเป็นยาชนิดที่ช่วยบำรุงรากผมให้กลับมาแข็งแรง แต่การเลือกยาแต่ละชนิดควรที่จะอยู่ภายใต้การแนะนำของแพทย์
การใช้ยาปลูกผม ร่วมกับการรักษาอื่นๆ
การรักษาอาการผมร่วงด้วยยาปลูกผมเพียงอย่างเดียวอาจไม่ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ แพทย์จึงอาจจะแนะนำวิธีอื่น ๆ ควบคู่ไปด้วยกัน ได้แก่
ฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น
วิธีนี้แพทย์จะฉีดเลือดเข้มข้นไปที่หนังศีรษะ เป็นการกระตุ้นการทำงานของเซลล์ผม ช่วยให้รากผมที่เสียหายหรือขาดเลือดกลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นวิธีที่มีความเสี่ยงน้อย เนื่องจากเป็นการใช้เลือดของเจ้าตัวมาทำการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
เซลล์บำบัด
วิธีนี้ถือเป็นการปลูกผมอีกวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด การทำงานของวิธีนี้คือ จะทำการฉีดเซลล์เข้าสู่หนังศีรษะบริเวณที่มีปัญหาเส้นผม เพื่อกระตุ้นการทำงานของเส้นผม มีการสร้างเส้นเลือดฝอยได้มากขึ้น ผมที่ขึ้นมาใหม่จึงแข็งแรงมากขึ้น
เลเซอร์หนังศีรษะ
การเลเซอร์อาจเป็นในรูปแบบหมวก หรือที่เรียกว่า “เลเซอร์หมวก” เป็นวิธีรักษาผมร่วงระยะเริ่มต้น ช่วยสมานแผล ลดอาการอักเสบของหนังศีรษะ โดยการฉายเลเซอร์ LLLT หรือ Low-Level Laser Therapy แบบพลังงานต่ำลงไปหนังศีรษะนั้น จะทำให้มีสารอาหารหล่อเลี้ยงบริเวณรากผมได้มากขึ้น ผมจึงแข็งแรง ในระยะยาวยังทำให้ผมดกหนามากขึ้น แต่วิธีการนี้ใช้เวลานานและต้องทำเองที่บ้าน จึงมักจะใช้เป็นทางเลือกเสริมร่วมกับวิธีอื่น ๆ
ผ่าตัดปลูกผม
การผ่าตัดปลูกผมเป็นอีกวิธีที่เป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน ซึ่งนิยมใช้ร่วมกับการกินยาปลูกผมหลังการผ่าตัดปลูก เพื่อให้ยาปลูกผมไปบำรุงรากผมที่ปลูกใหม่ให้แข็งแรงไม่หลุดร่วงง่าย โดยแพทย์ที่ผ่าตัดจะเป็นผู้แนะนำชนิดยาที่เหมาะกับคุณ
ทางเลือกสำหรับคนที่ไม่ต้องการใช้ยาปลูกผม
แม้ใช้ยาปลูกผมจะสะดวกสบายแต่ไม่ใช่ทุกคนจะเหมาะกับยาปลูกผม ทั้งการแพ้หรือความกังวลเรื่องผลข้างเคียงจากยาปลูกผม ซึ่งวิธีการรักษาผมร่วงโดยไม่ต้องใช้ยาปลูกผม มีดังนี้
การฉีด PRP
วิธีนี้จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดบริเวณรากผม ผมที่ขึ้นใหม่จึงดกหนา แต่เป็นวิธีที่เหมาะกับคนที่มีรากผมเหลืออยู่เยอะพอสมควรเท่านั้น
การผ่าตัดปลูกผม
ถ้ารากผมเหลือน้อยมากจนไม่สามารถใช้วิธีบำรุงรากผมได้ วิธีผ่าตัดปลูกผมจึงเป็นวิธีที่เหมาะมากกว่า ซึ่งในปัจจุบันเทคโนโลยีศัลยกรรมได้พัฒนาไปอย่างแพร่หลาย ทั้งการปลูกผมแบบ FUT หรือแบบ FUE ล้วนแต่มีงานวิจัยรับรองและได้รับการแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
การรับประทานวิตามินหรืออาหารเสริมบำรุงเส้นผม
อีกวิธีที่เหมาะกับผู้ที่กังวลเรื่องผลข้างเคียงจากยาปลูกผม ไม่ว่าจะเป็นอาการแพ้ การวิงเวียนศีรษะ หรือแม้แต่การเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ การทานวิตามินหรืออาหารเสริมบำรุงเส้นผมเป็นอีกวิธีที่ช่วยให้ผมแข็งแรงและกลับมาดกหนาได้ เพราะมีสารสกัดจากธรรมชาติมากมายที่ช่วยเรื่องการงอกใหม่ของเส้นผม โดยไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้
สรุป
ยาปลูกผมคือทางเลือกใหม่ของผู้ที่ต้องการแก้ไขเรื่อง ผมร่วง ผมบาง ซึ่งการทำงานของยาปลูกผมคือจะช่วยลดฮอร์โมนที่เป็นต้นเหตุของการหลุดร่วง