เลือกคลินิกปลูกผมอย่างไร? เปรียบเทียบเทคนิคการปลูกผม ราคา?
สารบัญของบทความ
ปัญหาผมร่วง ผมบาง หัวล้านจนเห็นหนังศีรษะสร้างปัญหากวนใจ โดยเฉพาะผู้ชายที่มีปัญหาเรื่องเส้นผมมากกว่าผู้หญิง ทั้งการถูกคนรอบข้างทักหรือถูกสายตาจดจ้องจนหมดความมั่นใจ หลายคนที่มีปัญหาเรื่องเส้นผมจึงเริ่มหาวิธีแก้ปัญหาเส้นผม
การผ่าตัดปลูกผมที่เป็นทางเลือกซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะมีการพัฒนาเทคนิค อุปกรณ์ รวมถึงความเชี่ยวชาญของบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งการศัลยกรรมปลูกผมได้รับความไว้วางใจว่าจะต้องเห็นผลลัพธ์แน่นอน แต่การจะเข้ารับการผ่าตัดปลูกผมไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถทำได้ทันที ต้องมีการศึกษาข้อมูลและการเตรียมความพร้อม ก่อนจะตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดปลูกผม
ไขข้อข้องใจไปด้วยกันในบทความนี้ ที่จะตอบคำถามเรื่องการเลือกคลินิกปลูกผม การเตรียมตัว เตรียมความพร้อม รวมถึงเทคนิคต่าง ๆ ที่ใช้ในการปลูกผมทำให้คุณเข้าใจเรื่องการปลูกผมมากขึ้น และใช้ประกอบในการตัดสินใจก่อนเลือกคลินิกปลูกผม
คลินิกปลูกผม คืออะไร
คลินิกปลูกผม คือ สถานพยาบาลศัลยกรรมผิวหนัง ที่เกี่ยวกับเส้นผมโดยเฉพาะ ซึ่งการปลูกผมคือวิธีแก้ไขปัญหาหัวล้านที่เป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะมีประสิทธิภาพ เห็นผลในเวลาอันสั้นและมีการรับรองความปลอดภัยในระดับสากลไปทั่วโลก
คลินิกปลูกผมตามกฎหมาย
คลินิกปลูกผมที่ได้รับรองในทางกฎหมายจะต้องได้รับการยืนยันและมีมาตรฐานได้แก่
- แพทย์ของคลินิกมีประสบการณ์สูง และที่สำคัญคือมีเอกสารประกอบวิชาชีพถูกต้องตามกฎแพทยสภา
- มีอุปกรณ์ทันสมัยและได้รับมาตรฐานรับรองในทางการแพทย์
- คลินิกมีมาตรฐานความปลอดภัย และแจ้งค่าบริการชัดเจน
- มีเอกสารขออนุญาตเปิดสถานพยาบาล (คลินิก)
คลินิกปลูกผม ในต่างประเทศ
การเติบโตของศัลยกรรมปลูกผม ที่มีการวิจัยและพัฒนาอย่างรวดเร็ว ทั้งวิทยาการ เทคโนโลยี และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะ ในต่างประเทศจึงมีคลินิกศัลยกรรมปลูกผมเกิดขึ้นมากมาย รวมถึงประเทศทางแถบเอเชีย ไม่ว่าจะเป็น สิงคโปร์ มาเลเซีย เกาหลี จีน ญี่ปุ่น ฯลฯ ที่มีคลินิกปลูกผมเกิดขึ้นมากมาย
คลินิกปลูกผม ในประเทศไทย
ในประเทศไทยมีการเติบโตของ การศัลยกรรมปลูกผมอย่างก้าวกระโดด ทั้งเทคนิค เครื่องมือ รวมไปถึงความเชี่ยวชาญของแพทย์ ที่มีการเติบโตถึง 100 % ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ทำให้เป็นการศัลยกรรมที่นิยมรองลงมาจากศัลยกรรมใบหน้าและทรวงอก นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาฝีมือ รวมถึงการนำเข้าเครื่องมือที่ทันสมัยจากต่างประเทศ ทำให้มีอัตราความสำเร็จสูงโดยที่ไม่ต้องเดินทางไปถึงต่างประเทศ
ข้อควรรู้ ก่อนปลูกผม
ตามที่กล่าวมาข้างต้นแสดงให้เห็นว่า ปลูกผมถือเป็นศัลยกรรมชนิดหนึ่ง ก่อนที่เข้ารับการผ่าตัด จึงควรที่จะศึกษาข้อมูลและข้อพึงระวังก่อนที่จะเข้าคลินิกปลูกผม เพื่อให้การตัดสินใจของคุณไม่เสียเปล่า
หัวล้านแค่ไหนถึงควรไปคลินิกปลูกผม
แม้การผ่าตัดปลูกผมจะได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพ แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนที่จะเหมาะกับการปลูกผม จึงควรตรวจสภาพเส้นผมของตัวเองก่อน ว่าตอนนี้ศีรษะของคุณล้านขนาดไหนและควรปลูกผมหรือไม่ ซึ่งคนที่เหมาะกับการปลูกผมได้แก่
ผู้ที่มีแนวผมถอยร่นจากหน้าผากมากขึ้นเป็นรูปตัว M C U อาจเริ่มเป็นไข่ดาวมากขึ้น ถือเป็นลักษณะหัวล้านที่เริ่มรุนแรง และควรที่จะได้รับการปลูกผมเพื่อรักษาอาการหัวล้านหรือผมบางจนเห็นหนังศีรษะ หากมีเส้นผมบนหัวของคุณล้านหนักกว่านี้ยิ่งควรที่จะปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อหาวิธีการรักษาที่เหมาะสมต่อไป
ผู้ที่ไม่เหมาะกับการปลูกผม
แม้การปลูกผมจะเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาหัวล้านที่ได้ประสิทธิภาพอย่างมาก แต่ไม่ใช่ทุกคนจะเหมาะกับการปลูกผม ซึ่งผู้ที่ไม่เหมาะกับการปลูกผม ได้แก่
- คนที่ผมบริเวณท้ายทอยน้อยจนไม่สามารถนำไปปลูกได้
- คนที่ศีรษะล้านแบบกระจายทั่วทั้งหัว ผมน้อยไม่เหมาะกับการปลูกผม
- คนที่เป็นแผลคีลอยด์ง่าย อาจจะทำให้เกิดแผลเป็นชัดเจนหลังการผ่าตัดปลูกผม
- คนที่ผมร่วงเพราะโรคบางชนิด คนที่เป็นโรคหนังศีรษะอักเสบ หรือการติดเชื้อที่หนังศีรษะ จึงควรที่จะทำการรักษาให้หายก่อน
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง เช่น โรคความดัน เพราะการปลูกผมจะใช้เครื่องมือดึงรากผมออกมา และแม้จะใช้ยาชา แต่เลือดในเส้นเลือดยังคงไหลและมีความดันต่อเนื่อง หรือโรคเบาหวาน เพราะคนเป็นเบาหวานไม่สามารถย่อยไขมันและน้ำตาล จนไปอุดตันเส้นเลือดเนื้อเยื่อต่าง ๆ จึงไม่มีสารอาหารไปเลี้ยง เมื่อเกิดแผลก็จะหายยาก อาจทำให้เสี่ยงติดเชื้อ เนื้อเน่า จนนำไปสู่การเสียชีวิตได้
อายุเท่าไหร่ไม่ควรปลูกผม
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัดปลูกผมนั้น ยังรวมถึงการเช็กสภาพร่างกายและอายุของตัวเองว่าเหมาะกับการปลูกผมหรือไม่ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า การปลูกผมไม่ได้กำหนดอายุอย่างชัดเจนว่าการปลูกผมต้องทำตอนอายุเท่าไหร่ แต่ก็ไม่แนะนำผู้ที่มีอายุน้อยเกินไปรวมถึงผู้ที่เพิ่งมีปัญหาผมร่วงเริ่มต้น เพราะในอนาคตอาจมีปัญหาผมร่วง จนต้องกลับมาปลูกผมซ้ำอีก
อายุน้อยที่สุดที่ควรจะเข้าคลินิกปลูกผมจึงควรที่จะมีอายุมากกว่า 20 ปีขึ้นไป อายุมากที่สุดที่สามารถปลูกผมได้นั้น แพทย์ก็ไม่ได้กำหนดตายตัว เนื่องจากต้องวิเคราะห์ปัจจัยด้านสุขภาพ ความแข็งแรงของร่างกาย รวมถึงโรคประจำตัวว่ามีความพร้อมที่จะปลูกผมหรือไม่ แต่โดยรวมจะแนะนำผู้ที่มีอายุไม่เกิน 60 ปี เพราะหากอายุมากกว่านี้ อัตราการเกิดใหม่ของเส้นผมจะลดลงถึง 20%
ค่าใช้จ่ายในการปลูกผม
สิ่งสำคัญในการเข้าคลินิกปลูกผมคือค่าใช้จ่าย เนื่องจากคลินิกปลูกผมที่มีมาตรฐานนั้นมีค่าใช้จ่ายตั้งแต่การเริ่มตรวจ จนถึงการดูแลหลังการผ่าตัดปลูกผม
ค่ากราฟผม
ราคาค่ากราฟผมตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 35 – 90 บาท ซึ่งการแก้ล้านขั้นต่ำจำเป็นต้องใช้ 3,000 กราฟ คิดเป็นเงิน 105,000 บาท เป็นต้น
ค่ายาปลูกผม
เป็นค่าใช้จ่ายสำหรับยาทาน ยาทา เซรั่ม ที่ใช้หลังจากปลูกผมเสร็จแล้ว บางคลินิกรวมอยู่ในราคาคอร์สปลูกผม บางครั้งต้องเสียเงินซื้อเพิ่ม ทั้งของคลินิกหรือหาซื้อด้านนอก ราคาอยู่ที่ประมาณ 500-1500 ต่อเดือน
ค่าเดินทาง
แม้คลินิกปลูกผมจะมีบริการเรื่องการปรึกษาก่อนและหลังการปลูกผมให้กับผู้ที่สนใจฟรี แต่การเดินทางมาคลินิกปลูกผมเองก็มีค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นค่ารถ ค่าเดินทาง และค่าใช้จ่ายจิปาถะอื่น ๆ
ค่าการดูแลหลังการปลูกผม
หลังการปลูกผมต้องมีการดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด จึงทำให้ค่าใช้จ่ายในการดูแลเส้นผมและหนังศีรษะหลังผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็น หมวกคลุมผม หรืออุปกรณ์ดูแลอื่น ๆ ที่ทางคลินิกไม่มีให้
เลือกคลินิกปลูกผมอย่างไร ให้เหมาะกับตัวเอง
มาถึงการเลือกคลินิกปลูกผมซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องทำการศึกษาให้เข้าใจก่อนจะเสียเงินจำนวนมากไปกับการปลูกผม ซึ่งการเลือกคลินิกปลูกผมจำเป็นต้องวิเคราะห์จากปัจจัยเหล่านี้
ความน่าเชื่อถือของคลินิก
การเลือกคลินิกต้องดูจากความน่าเชื่อถือไม่ว่าจะเป็น การมีเอกสารขออนุญาตเปิดสถานพยาบาล (คลินิก) มีราคาแจ้งให้เห็นชัดเจน รวมถึงความพร้อมด้านอุปกรณ์ที่ดูทันสมัยและปลอดภัยว่ามีความเป็นสากลและได้รับการรับรองอย่างถูกต้องหรือไม่ โดยอาจเลือกจากคลินิกที่มีรีวิวจากผู้ที่เคยผ่าตัดปลูกผมจริงด้วย
ความเชี่ยวชาญของแพทย์
การเลือกผ่าตัดศัลยกรรมปลูกผมความเชี่ยวชาญของเพื่อนถือเป็นสิ่งแรก ๆ ที่ควรนำมาประกอบการตัดสินใจ นอกจากแพทย์ของคลินิกจะต้องมีประสบการณ์สูง และมีเอกสารประกอบวิชาชีพถูกต้องตามกฎแพทยสภาที่ตรวจสอบได้ ยังต้องมีการผ่านการอบรมจนเชี่ยวชาญ ไม่เช่นนั้นอาจเกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมา
บริการก่อนและหลังการปลูกผมของคลินิก
นอกจากปัจจัยด้านความพร้อม ความน่าเชื่อถือ และความเชี่ยวชาญของแพทย์ในของคลินิกแล้ว บริการก่อนและหลังการปลูกผมเองก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะการบริการของบุคลากรคนอื่น ๆ เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะปลูกผมได้ การให้คำแนะนำก่อนปลูกผม และการดูแลหลังการปลูกผมจึงเป็นบริการที่สำคัญในการเลือกคลินิกปลูกผม อาจศึกษาจากรีวิวของผู้ที่เข้ารับบริการจากคลินิกมาก่อน
อื่น ๆ
นอกจากปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ต้องวิเคราะห์ร่วมกันด้วย ไม่ว่าจะเป็น ปัจจัยด้านค่าใช้จ่าย ปัจจัยด้านการเดินทาง เพราะการปลูกผมอาจต้องเดินทางไกล หากต้องมีช่วงเวลาพักฟื้น สิ่งเหล่านี้ก็มีความสำคัญในการเลือกคลินิกปลูกผมไม่แพ้กับปัจจัยอื่น
เทคนิคปลูกผมมีอะไรบ้าง
เทคนิคที่ 1 FUT (Follicular Unit Transplantation)
เป็นเทคนิคมาตรฐานการปลูกผมที่ได้รับการยอมรับและนิยมทั่วโลก วิธีคือใช้กล้องจุลทรรศน์ช่วยแบ่งรากผมช่วงด้านหลังหรือท้ายทอย ไม่ต้องใช้ยาสลบแต่ใช้ยาชาฉีดบริเวณที่ต้องการเอารากผมออก ซึ่งวิธีนี้เห็นผลลัพธ์ได้ต่อเนื่องและมีความปลอดภัยสูง
เทคนิคที่ 2 FUE (Follicular Unit Extraction)
วิธีนี้จะใช้การย้ายเซลล์รากผมโดยใช้การเจาะผมท้ายทอยด้วยหัวเจาะ 0.6-1.0 มิลลิเมตร ถือเป็นวิธีที่ต้องใช้ความละเอียดต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์และเครื่องมือที่เชี่ยวชาญ เพื่อป้องกันการเสียหายของรากผม รอยแผลเป็นหลังการผ่าตัดด้วยวิธี FUE จึงเป็นรอยจางที่แทบมองไม่เห็น
เทคนิคที่ 3 Regenera activa
การปลูกผมนี้เป็นการปลูกผม แบบไม่ผ่าตัด แต่จะใช้การฉีดสเต็มเซลล์ตรงที่มีปัญหาเส้นผม ใช้หลักการซ่อมแซมเซลล์ด้วยเซลล์ กระตุ้นให้เซลล์อ่อนแอกลับมาแข็งแรง ถือเป็นวิธีที่ปลอดภัย ไม่มีอาการแพ้หรือผลข้างเคียงใด ๆ
เทคนิคที่ 4 Hair formula shot™
วิธีการนี้รักษาผมร่วง ผมบาง เพิ่มผมหนา ด้วยการใช้หลักการองค์รวมระบบนิเวศน์วงจรผมซึ่ง Hair formula shot™ มีองค์ประกอบโปรตีนขนาดเล็ก มีสารชีวโมเลกุลกว่า 1,000 ชนิด ซึ่งล้วนแต่ช่วยกระตุ้น ซ่อมแซมเซลล์ต่าง ๆ ในรากผม ช่วยให้เซลล์ในรากผมทำงานได้ดีและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เปรียบเทียบเทคนิคการปลูกผมของคลินิกปลูกผม
ปลูกผม ที่ไหนดี
เมื่อตัดสินใจจากปัจจัยข้างต้นจนมั่นใจที่จะเข้าคลินิกปลูกผมแล้ว ต้องศึกษาคลินิกปลูกผมที่เชื่อถือได้และตั้งอยู่ใกล้กับภูมิลำเนา เพื่อประกอบการตัดสินใจ เพราะการปลูกผมนั้นการเดินทางและการพักฟื้นหลังการผ่าตัดนั้นก็สำคัญไม่แพ้กัน เราจึงนำรายชื่อคลินิกที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคต่าง ๆ หรือในต่างประเทศเพื่อให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
คลินิกปลูกผมภาคกลาง
- DR.Chin คลินิกปลูกผม จังหวัดนครสวรรค์
- โรงพยาบาลเลอลักษณ์ จังหวัดนนทบุรี
- โรงพยาบาลกมล กรุงเทพมหานคร
- โรงพยาบาลยันฮี กรุงเทพมหานคร
- โรงพยาบาลศิริราช กรุงเทพมหานคร
คลินิกปลูกผมภาคเหนือ
- คลินิก ปลูกผม THTC (Thailand Hair Transplant Center) เชียงใหม่
- Hair Reborn สาขาเชียงใหม่
- Hair Reborn สาขาเชียงราย
- MP Hair Clinic สาขาเชียงใหม่
- เมด้าคลินิก สาขาเชียงใหม่
คลินิกปลูกผมภาคอีสาน
- Hair Reborn สาขานครราชสีมา
- MAX HAIR: คลินิกปลูกผม ศัลยกรรมปลูกผมถาวร สาขาอุดรธานี
- คลินิกเวชกรรมเกศา สาขาขอนแก่น
- All About Clinic สาขาขอนแก่น
- Kesa clinic สาขาขอนแก่น
คลินิกปลูกผมภาคใต้
- Skeyncare Clinic สกีนแคร์คลินิก หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
- คลินิกศัลยกรรมหมอปริญญา หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
- MAX HAIR: คลินิกปลูกผม ศัลยกรรมปลูกผมถาวร สาขาหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
- Jungceylon Clinic จังหวัดภูเก็ต
- MP Clinic จังหวัดภูเก็ต
คลินิกปลูกผมต่างประเทศ
- คลินิกปลูกผม ประเทศเกาหลีใต้
- คลินิกปลูกผม ประเทศในแถบยุโรป
- คลินิกปลูกผม ในสหรัฐอเมริกา
นอกจากคลินิกปลูกผมที่นำเสนอเป็นตัวอย่างข้างต้นแล้ว ยังสามารถค้นหาข้อมูลคลินิกเพิ่มเติมได้ในช่องทางออนไลน์ เพื่อหาคลินิกใกล้บ้านที่สามารถเดินทางสะดวกและเหมาะกับคุณ
การเตรียมตัวสำหรับการปลูกผม
เมื่อเลือกคลินิกปลูกผมได้แล้ว สิ่งที่ควรทำคือ การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการปลูกผม ซึ่งการเตรียมพร้อมนั้นไม่ใช่แค่การเตรียมร่างกายเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเตรียมค่าใช้จ่ายและระยะเวลาในการพักฟื้นด้วย
การเตรียม ค่าใช้จ่าย
ค่าใช้จ่ายสำหรับการปลูกผมนั้นมีอยู่หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นค่ากราฟผม รวมราคาแก้ล้านที่กล่าวมาข้างต้นก่อนหน้านี้อยู่ที่ประมาณ 3,000 กราฟ ราคาจะอยู่ที่ 105,000 บาท นอกจากนี้ยังมีค่ายาปลูกผมที่ต้องทานหลังปลูกผม โดยบางคลินิกไม่ได้คิดรวมกับคอร์สปลูกผม นอกจากนี้ยังมีค่าเดินทาง ค่าอุปกรณ์ที่ต้องใช้เพิ่มเติมอีกมาก ผู้ต้องการปลูกผมจึงควรเตรียม
การเตรียม เวลาในการพักฟื้น
หลังออกจากคลินิกแล้วสิ่งสำคัญคือ ระยะเวลาในการพักฟื้น เพื่อให้ร่างกายปรับตัวและฟื้นฟูก่อนจะกลับมาทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน สถานที่และระยะเวลาในการพักฟื้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การผ่าตัดปลูกผมมีประสิทธิภาพและไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย คนที่ต้องการปลูกผมจึงควรที่จะจัดเตรียมสิ่งเหล่านี้ให้พร้อมก่อน
ข้อปฏิบัติหลังจากการปลูกผม
ภายหลังปลูกผมแล้วก็ยังมีข้อปฏิบัติที่ควรทำเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการแพ้หรือแทรกซ้อนหลังการศัลยกรรมปลูกผม ซึ่งข้อควรทำและข้อห้ามมีดังนี้
การดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดปลูกผม
การดูแลหลังปลูกผม 48 ชั่วโมง
- ห้ามแตะต้องบริเวณที่ทำการปลูกผมในช่วง 24 ชั่วโมงหลังการปลูกผมโดยเด็ดขาด
- ใส่ผ้ารัดศีรษะครบกำหนดตามที่แพทย์แนะนำ แม้แต่ตอนที่ต้องนอนหลับ
- เวลานอนควรนอนราบ ไม่นอนตะแคงหรือคว่ำ นอนยกศีรษะสูงกว่า 45 องศา จะช่วยลดอาการบวมน้ำเกลือหลังการปลูกผมได้
การดูแลหลังปลูกผม 2 สัปดาห์
- ดูแลแผลและสะเก็ดแผล ไม่แกะหรือเกาแผลเด็ดขาด
- สวมหมวกเวลาออกจากบ้าน เพื่อป้องกันหนังศีรษะโดนแสงแดด แต่ต้องเป็นหมวกโปร่ง ไม่อับชื้น ไม่กดทับแผล
การดูแลหลังการปลูกผม 4 สัปดาห์
- ทำกิจกรรมเบา ๆ ไม่รุนแรงหรือโลดโผน
- ป้องกันเส้นผมไม่ให้กิจกรรมที่ทำไม่กระทบกับกราฟผมที่เพิ่งปลูก
วิธีสระผมเมื่อปลูกผมเสร็จแล้ว
- หลังปลูกผมครบ 24 ชั่วโมงสามารถสระผมได้แล้ว
- ควรสระผมอย่างเบามือ ห้ามแตะต้องบริเวณปลูกผม
- ใช้น้ำฝักบัว อุณหภูมิห้องไม่ร้อนหรือเย็นเกินไป
- เลือกใช้แชมพูสูตรอ่อนโยน แล้วขยี้เป็นฟอง แต่ไม่ต้องขยี้บนผม ทิ้งไว้ 5 นาทีค่อยล้างออก
- ควรสระผมอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง
ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์
ข้อสำคัญนอกจากการดูแลตัวเองข้างต้น คือการทำตามคำแนะนำของแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นการทานยาแก้อักเสบ การไปพบแพทย์ตามนัดให้ตรงเวลา เพราะหากมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นจะทำให้สามารถรักษาหรือแก้ไขได้ทัน
ข้อห้ามปฏิบัติขณะพักฟื้นหลังปลูกผม
- ห้ามแกะหรือเกาสะเก็ดแผล
- ห้ามนอนทับแผล
- ห้ามถูกของแข็งมากระทบหนังศีรษะ
- ห้ามออกกำลังกายหนัก 3 วันหลังการปลูกผม
- ห้ามไปพื้นที่เสี่ยงติดเชื้อ เช่น แหล่งแออัด
- ห้ามโดนแสงแดด เป็นเวลา 1 เดือน
- ห้ามดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ 2-4 สัปดาห์หลังปลูกผม
ต้องใช้ยาปลูกผมหรืออาหารเสริมหลังผ่าตัดหรือไม่
เมื่อปลูกผมเสร็จแล้ว สิ่งที่แพทย์จะแนะนำต่อไปคือ การทานยาปลูกผมควบคู่กันไป ซึ่งกลายเป็นคำถามสำหรับหลายท่าน ว่าทำไมผ่าตัดปลูกผมถาวรแล้วยังต้องทานยาปลูกผมอีก แล้วการทานยาปลูกผมต้องทานตลอดชีวิตเลยหรือไม่
ทำไมต้องใช้ยาปลูกผมหลังผ่าตัดปลูกผม
หลายท่านยังสงสัยว่า การเลือกที่จะผ่าตัดปลูกผมแล้ว ทำไมยังต้องทานยาปลูกผมอีก นั่นก็เพราะการปลูกผมเป็นเพียงการย้ายผมจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง แต่ยังไม่ใช่การหยุดปัญหาผมร่วง ด้วยเหตุนี้หากผมยังร่วงเท่าเดิม คุณก็ยังต้องกลับมาปลูกผมอีกเหมือนเดิม
หน้าที่ของยาปลูกผมคือการรักษาผมให้แข็งแรง ช่วยให้อยู่กับศีรษะได้นานกว่าเดิม ด้วยเหตุนี้ผู้ที่ปลูกผมแล้วจึงควรที่จะทานยาปลูกผมเพื่อช่วยให้ผมแข็งแรงไม่หลุดร่วง และยังช่วยให้ผมใหม่เจริญเติบโตมากขึ้น
สิ่งที่ผู้ปลูกผมใหม่กังวลอีกเรื่องคือ การทานยาปลูกผมต้องทานตลอดชีวิตหรือไม่นั้น ต้องอธิบายว่า เหตุผลที่คุณหมอแนะนำให้ทานยาปลูกผมก็เพราะต้องการให้ตัวยารักษาเส้นผมให้อยู่กับคุณนานที่สุด หากผู้ที่มั่นใจว่าผมไม่หลุดร่วงเพิ่มจนเกิดปัญหาล้าน ร่วง บางแล้ว หรือผู้ที่อายุเกิน 60 ปีขึ้นไป อาจปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาหยุดทานยาได้
การเลือกใช้ยาปลูกผมและอาหารเสริมหลังผ่าตัดปลูกผม
ยาปลูกผมมีหลายชนิด แต่ยาที่แพทย์มักใช้ควบคู่กับการผ่าตัดปลูกผมคือ ฟีนาสเตอไรด์ ซึ่งเป็นยาปลูกผมแบบเม็ดที่ช่วยแก้ปัญหาผมบางจากพันธุกรรม โดยตัวยาจะออกฤทธิ์ยับยั้งฮอร์โมน DHT (Dihydrotestosterone) หรือฮอร์โมนเพศชายที่คือต้นเหตุของเส้นผมเล็กบางลง
นอกจากนี้ ฟีนาสเตอไรด์ยังช่วยให้รากผมกระตุ้นรากผมแข็งแรง มีผมเกิดใหม่มากขึ้น แต่ยากชนิดนี้รักษาในอาการผมร่วง ไม่สามารถแก้ไขให้คนที่หัวล้านไปแล้วได้ จึงนิยมใช้ควบคู่ไปกับการผ่าตัดปลูกผม โดยจะเห็นผลลัพธ์หลังใช้ต่อเนื่อง 3-6 เดือนไปแล้ว แต่หากหยุดใช้ผมของคุณอาจกลับมาหลุดร่วงได้อีก จึงควรที่จะต่อเนื่องแม้ผมจะกลับมาแข็งแรงดกดำแล้ว
ข้อควรระวังของการใช้ ฟีนาสเตอไรด์ คือ ไม่ควรใช้ในผู้หญิงที่ตั้งครรภ์เพราะอาจส่งผลต่อเด็กในครรภ์มารดาได้ ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคตับ และผู้ที่มีอาการแพ้ยาฟีนาสเตอไรด์
สรุป
จะเห็นได้ว่าการเลือกคลินิกปลูกผมเพื่อเข้ารับศัลยกรรมแก้ไขปัญหาเส้นผมนั้น ต้องใช้ปัจจัยหลายอย่างนำมาตัดสินใจร่วมกัน ทั้งการเตรียมตัวก่อนปลูกผมและการเตรียมตัวหลังการปลูกผม สิ่งสำคัญคือการเลือกคลินิกที่มีมาตรฐานรับรองความปลอดภัย ดูน่าเชื่อถือ และไม่ไกลจากบ้านเกินไป เพราะต้องเตรียมตัวพักฟื้นหลังการปลูกผม นอกจากนี้ยังต้องเตรียมเรื่องค่าใช้จ่ายจำนวนมากรวมไปถึงการให้เวลา กว่าที่จะได้ผมดกดำกลับคืนมาจึงไม่ใช่เรื่องง่าย ผู้ที่ต้องการเข้าคลินิกปลูกผมจึงควรศึกษาข้อมูลให้เข้าใจเสียก่อน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ตัวเองต้องการ