เคราติน

รู้หรือไม่ ? แค่ใช้เคราตินให้ถูกวิธี ก็มีผมดกหนาได้ง่าย ๆ

เคราติน คือโปรตีนในโครงสร้างของเส้นผม เล็บ ที่เรียงตัวกันคล้ายกับเกล็ดปลา และยังเป็นเซลล์ต้นกำเนิดผิวหนัง มีหน้าที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับเซลล์ต่าง ๆ โดยเฉพาะเส้นผม ถ้าขาดเคราตินก็ทำให้เกิดปัญหาผมแห่งเสีย ขาดร่วงได้ง่าย 

หนุ่ม ๆ ที่ชอบทำสีผม ดัดผม หรือใช้เจลเซตผมที่มีส่วนผสมของสารเคมี มักมีปัญหาผมแห้งเสีย ชี้ฟู และขาดร่วงได้ง่าย นั่นเป็นเพราะว่าเคราตินในเส้นผมถูกทำลาย จากการที่เกร็ดผมพังจนไม่สามารถเก็บความชุ่มชื้นไว้ในผมได้ ส่งผลให้สุขภาพผมเสีย ซึ่งหลายคนก็เข้าใจว่าต้องรีบนำโปรตีนมาเติมให้เส้นผมอีกครั้ง แต่ก่อนที่จะไปรู้จักกับเคราติน เราไปดูกันก่อนว่า เคราตินสำคัญกับเส้นผมอย่างไรบ้าง

ความสำคัญของ “เคราติน” ต่อเส้นผม

เคราตินหมักผม

เคราตินมีความสำคัญกับเส้นผมอย่างมาก เพราะเป็นโปรตีนที่อยู่ในเส้นผมถึง 95%นอกจากจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงได้แล้ว ยังมีหน้าที่ปกป้องอันตรายจากแสงแดด รังสี UV โดยชั้นนอกสุดของเส้นผมจะเป็นเคราตินอัดแน่นกันเป็นเกล็ดปลา ซึ่งชั้นนี้มีเม็ดสีเมลานิน (Melanin) ที่เป็นตัวกำหนดสีผมของคนแต่ละสัญชาติด้วย

ถึงแม้ว่าเซลล์ผิวหนังคีราติโนไซต์ (keratinocyte) จะสามารถผลิตโปรตีนอย่างเคราตินได้ แต่ถ้าขาดการดูแลบำรุงก็อาจทำให้ไม่เพียงพอต่อการเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเส้นผม เล็บ และผิวหนัง จนส่งผลให้ผิวแห้งกร้าน ผมร่วงจนหัวล้าน หรือเล็บฉีกง่าย

โดยความแตกต่างระหว่างเคราตินในเส้นผม กับผิวหนัง คือ ปริมาณของกรดอะมิโนซิสเตอีนที่เกาะกันอย่างหนาแน่นจนได้เป็นพันธะไดซัลไฟด์ (disulfide bond) สำหรับผิวหนัง ฝ่ามือ หรือฝ่าเท้า ที่เรารู้สึกว่านุ่มนิ่ม นั่นเป็นเพราะว่าในผิวหนังมีจำนวนพันธะไดซัลไฟด์น้อยกว่าในเส้นผม จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เคราตินมีความสำคัญอย่างมากกับเส้นผม

ซึ่งหนุ่ม ๆ หลายคนคงจะเป็นห่วงเรื่องปัญหาผมบาง ขาดร่วงกันมากกว่าปัญหาผิว วันนี้เราจึงนำวิธีดูแลเส้นผมให้ดกหนา แข็งแรง และลดปัญหาศีรษะล้านด้วยการเติมเคราตินให้เส้นผมมาฝากทุกคน เพราะการเติมโปรตีนเส้นผมในปัจจุบันมีหลากหลายวิธีมาก ๆ ถ้าใช้เคราตินผิดวิธี ก็อาจจะยิ่งกระตุ้นให้ผมร่วงเยอะขึ้น ต้องระวัง !👇

ไม่อยากผมร่วงต้องเลือกใช้ “เคราติน” ให้ถูกต้อง

เคราติน

ถ้าพูดถึงเคราตินหนุ่ม ๆ ก็คงนึกถึงครีมหมักผม การหมักทรีตเมนต์ที่ร้านทำผม หรือการใช้แชมพู ครีมนวดที่มีคุณสมบัติช่วยเติมเต็มโปรตีนให้กับเส้นผม ทำให้นุ่มลื่น และสุขภาพผมดีขึ้น หรือบางคนที่มีผมหยักศกก็อาจจะนึกถึงการทำให้ผมตรงด้วยเคราติน ซึ่งทุกชนิดที่ได้กล่าวมาต่างก็วางขายทั่วไปตามท้องตลาด 

รู้หรือไม่ ? ว่าการเลือกใช้เคราตินต้องดูให้ดี ๆ ไม่ควรเลือกที่ราคาถูกเกินไป เพราะเกือบทุกผลิตภัณฑ์ที่ราคาถูก จะไม่ได้ใช้สารสกัดออแกนิค แต่จะใช้เคราตินสังเคราะห์แทน ซึ่งมีส่วนผสมของสารฟอร์มาลดีไฮด์อยู่  

สารฟอร์มาลดีไฮด์ เป็นสารเคมีที่ไม่มีสี แต่กลิ่นฉุน หากสูดดมบ่อย ๆ ก็เสี่ยงต่อการมีปัญหาทางเดินหายใจ โดยสารนี้จะช่วยให้ผมหยักศกของหนุ่ม ๆ เปลี่ยนเป็นผมตรงคล้ายกับการยืดผมได้เลย จึงถูกนำมาผสมอยู่ในเคราตินทั่วไป

“แต่สารฟอร์มาลดีไฮด์เป็นอันตรายกับผู้ใช้อย่างมาก” เพราะนอกจากจะส่งผลต่อทางเดินหายใจได้แล้ว ยังก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังได้ง่ายมาก ๆ โดยเฉพาะหนังศีรษะ และเส้นผม อาจเกิดการแพ้เฉียบพลัน จนส่งผลให้ผมแห้งเสีย แตกปลาย ร่วงหนักมาก หนังศีรษะแสบร้อน เป็นแผล ถ้าโชคร้ายมาก ๆ ก็อาจหัวล้านถาวรได้เลย 

ดังนั้น ถ้าหนุ่ม ๆ คนไหนอยากใช้เคราตินบำรุงผมให้นุ่ม ตรง เงางาม ควรดูเรื่องสารสกัดในผลิตภัณฑ์ให้ละเอียด เพราะหลากหลายยี่ห้อมีส่วนผสมของสารฟอร์มาลดีไฮด์มากถึง 12% ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐฯ (U.S FDA) ได้กำหนดไว้ว่าในเคราตินไม่ควรมีส่วนผสมของสารฟอร์มาลดีไฮด์เกิน 0.2% เท่านั้น

ถ้าใครเริ่มกังวล หรือไม่อยากใช้เคราตินบำรุงผมเพราะกลัวว่าจะแพ้ หรือกลัวว่าผมจะเสีย ขอแนะนำให้เปลี่ยนมาเพิ่มโปรตีนให้กับเส้นผม ด้วยการทานสารอาหารที่มีเคราตินเป็นส่วนประกอบ เพื่อบำรุงจากภายใน ทั้งปลอดภัย และไม่มีผลข้างเคียงด้วย

แค่ “กิน” ก็กระตุ้นการสร้างเคราตินได้

เคราตินที่ได้จากการทานอาหาร

สำหรับคนที่อยากบำรุงเส้นผมให้แข็งแรง ดกหนา และเงางามด้วยเคราติน แต่ไม่อยากใช้ผลิตภัณฑ์หมักผมเพราะกลัวการแพ้ ระคายเคือง สามารถเน้นเป็นการบำรุงจากภายในด้วยการทานอาหารที่มีโปรตีนแทนได้ เพราะโปรตีนช่วยเสริมสร้างความแข็งแรง และช่วยซ่อมแซมอวัยวะในร่างกายได้อย่างดี

กลุ่มอาหารที่มีช่วยเติมเต็มโปรตีนให้กับเส้นผม และกระตุ้นการสร้างเคราตินมีดังนี้
  • อาหารที่ให้โปรตีน ได้แก่ ไข่ อัลมอนด์ เนื้อวัวไม่ติดมัน หรือบล็อคโคลี

  • กรดอะมิโนจำเป็นที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเคราตินของเส้นผม และยังช่วยให้เส้นผมเงางามได้อีก มีกรดอะมิโนซีสเทอีน และกรดอะมิโนเมไทโอนีน ซึ่งได้จากการทานเนื้อสัตว์ปีก กระเทียม หอม และธัญพืชต่าง ๆ

  • วิตามินซี ช่วยให้การดูดซึมของสารอาหารมีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังช่วยสร้างคอลลาเจนให้กับร่างกายได้อีกด้วย โดยคอลลาเจนก็มีหน้าที่กระตุ้นให้ร่างกายผลิตเคราตินมากขึ้น ซึ่งวิตามินซีได้จากการทานผักผลไม้ เช่น ทับทิม ฝรั่ง ผักโขม คะน้า และถั่ว

แม้ว่ากลุ่มอาหารเหล่านี้จะช่วยให้ร่างกายผลิตเคราตินได้มากขึ้น แต่ก็ควรทานในปริมาณที่เหมาะสมกับร่างกาย หรือถ้าหนุ่ม ๆ คนไหนมองว่าการเลือกทานอาหารอาจยุ่งยากเกินไป ก็สามารถเลือกทานเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพิ่มเติมหลังมื้ออาหารได้

HERRMETTO ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบำรุงผม

ถ้าคุณเป็นหนึ่งในคนที่เส้นผมอ่อนแอ ขาดร่วงง่าย หรือผมบางมากจนมองเห็นหนังศีรษะชัด เพราะขาดเคราติน และต้องการตัวช่วยเพื่อบำรุงจากภายใน ให้เส้นผมได้รับโปรตีนจนกลับมาแข็งแรง ดกหนา จนมั่นใจอีกครั้ง 

💁‍♂️ขอแนะนำผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร HERRMETTO (เฮอร์เมตโต) ที่อุดมไปด้วย “โปรตีนจากข้าวฟ่างและกรดอะมิจำเป็นจากทับทิม” ช่วยกระตุ้นการสร้างเคราตินให้เส้นผมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดปัญหาผมขาดร่วง แก้หัวล้านได้ดีเยี่ยม 

herrmetto

นอกจากสารสกัดจากธรรมชาติแล้วผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร HERRMETTO (เฮอร์เมตโต)ยังผสมผสานวิตามิน และแร่ธาตุที่ช่วยสร้างเคราตินให้กับเส้นผม จึงมีส่วนช่วยบำรุงรากผม รูขุมขน และหนังศีรษะได้อีกด้วย ทำให้แก้ปัญหาเส้นผมได้อย่างตรงจุด และที่สำคัญไม่มีผลข้างเคียงต่อสุขภาพ “ผ่านการทดสอบแล้วว่าไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ระคายเคือง”

พิสูจน์ด้วยผู้ใช้จริง ! แม้ทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร HERRMETTO (เฮอร์เมตโต) เพื่อเสริมสร้างเคราตินให้ผมแข็งแรงอย่างต่อเนื่อง ก็ปราศจากผลข้างเคียง ด้วยผลตรวจสุขภาพจากทางโรงพยาบาล ที่ยืนยันได้ว่าค่าตับ ค่าไตอยู่ในเกณฑ์ปกติ ช่วยให้หนุ่ม ๆ หายหัวล้าน มีผมดกหนา พร้อมสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงไปพร้อม ๆ กัน

สรุป

เลิกลองผิดลองถูก ! แล้วเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อเส้นผมที่มีส่วนผสมมาจากธรรมชาติ หรือมีสารฟอร์มาลดีไฮด์ไม่เกิน 0.2% และเน้นการทานอาหารที่ให้โปรตีน อาหารที่มีกรดอะมิโนจำเป็นต่อการสร้างเคราตินให้ผม พร้อมเสริมด้วย HERRMETTO (เฮอร์เมตโต) วันละ 1 แคปซูล เพียงเท่านี้หนุ่ม ๆ ก็มีผมที่ดกหนา สุขภาพดีได้ไม่ยาก และปลอดภัยด้วย ยังมีเคล็ดลับดูแลเส้นผมอีกมากมาย👉 คลิกเลย